อาหารผิวในรูปแป้ง COCON เป็นผลิตภัณฑ์
ที่มีสิทธิบัตรเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานถึง 3 ฉบับ
ครอบคลุมตั้งแต่ การเปลี่ยนโครงสร้าง Silk Fibroin, การลดแรงตึงผิวตามธรรมชาติ และการซึมลึกระดับเซลล์"
ซึ่ง "เทคโนโลยี ที่สามารถได้รับการจดสิทธิบัตร"
นั่นแปลว่า ต้องผ่านการตรวจสอบแล้ว ว่า
"ไม่ทับซ้อนกับเทคโนโลยีเดิม ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรไว้ก่อนแล้ว"
ดังนั้น เทคโนโลยี ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร จากประเทศที่มีการแข่งขันด้านเทคโนโลยีสูง อย่าง อเมริกา และ ญี่ปุ่น จึงจะต้องเป็นเทคโนโลยี ที่เป็นแนวหน้า ในด้านนั้นๆ จริงๆ
"อาหารผิวในรูปแป้ง COCON" มีเทคโนโลยีที่เป็นโครงสร้างพื้นฐาน ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ใน อเมริกา 1 ฉบับ และ ญี่ปุ่น 2 ฉบับ ดังนี้
1) เทคโนโลยี การเปลี่ยนโครงสร้างโปรตีน ของ Fibroin ให้เป็นโครงสร้างทรงกลมขนาดเล็ก ที่มีคุณสมบัติเป็น Bio-Emulsifier ที่สามารผ่านเข้าเซลล์และนำใช้ได้
จดสิทธิบัตรญี่ปุ่น หมายเลข JP3659352
"โครงสร้างโปรตีน ทรงกลมขนาดเล็ก" ที่เป็นผลลัพธ์ของกระบวนการนี้ คือ "โครงสร้างโปรตีน รูปแบบที่ถูกออกแบบให้เป็น Bio-Emulsifier ตามหลัก Tissue Engineering" แล้ว ว่า ซึมผ่านผนังเซลล์ผิวได้ง่าย
นั่นหมายถึง เทคโนโลยีนี้ เป็นเทคโนโลยีระดับโมเลกุล ที่ออกแบบให้เกิดผลลัพธ์ ตามศาสตร์ด้าน Tissue Engineering ที่เป็นศาสตร์วิศวกรรรมขั้นสูง ที่ใช้ในการออกแบบโครงสร้างและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ โดยทำงานกับเซลล์เป็นหลัก
ตามที่ทีม banchmark ของ umbrella สัมผัสได้จากสินค้า ไว้ว่า
"เป็นอาหารผิว ที่เพียว และ บริสุทธิ์ ที่สุด
ด้วยส่วนผสม ของ ความเป็น โปรตีน 100% pure cocoon
แต่ความล้ำมันอยู่ตรงที่ โมเลกุลของแป้งนี้มันเป็น
"ทรงกลม" และ ขนาดเล็กมาก จนเมื่อคุณจับลงไป
บนแป้งจะเรียบลื่น จนผิวสัมผัสเหมือนกระจก
“กระจกจริงๆ” ค่ะ ไม่เว่อร์เลย.."
และ เป็นสารอาหารที่มีประสิทธิภาพสูง ในการช่วยฟื้นฟูผิวในระดับเซลล์ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน
แต่กระบวนการของเทคโนโลยีนี้ ต้องใช้ Fibroin แบบที่ "ไม่มีโครงสร้างผลึก" (Amorphous Silk Fibroin) ไม่สามารถใช้ Fibroin จาก Silk Cocoon จากธรรมชาติได้โดยตรงที่ยังเป็นโครงสร้างผลึกอยู่ได้ ทำให้จึงต้องมี
2) เทคโนโลยี การเปลี่ยนโครงสร้าง Fibroin จาก แบบเป็นโครงสร้างผลึก (Crystalline Form) เป็น "ไม่มีโครงสร้างผลึก" (Amorphous Silk Fibroin)
จดสิทธิบัตรญี่ปุ่น หมายเลข JP3738255
การเปลี่ยนโครงสร้าง Fibroin จาก มีโครงสร้างผลึก เป็นไม่มีโครงสร้างผลึก ยังมีข้อดี ที่ทำให้เนื้อของ Fibroin ที่ผ่านกระบวนการนี้แล้ว มีเนื้อสัมผัสที่นุ่มลง เรียบเนียน อ่อนโยน จึง "ไม่บาดเซลล์ผิว" เมื่อตอนสัมผัส
จากการ benchmark ของทางumbrella ได้อธิบายประเด็นสำคัญนี้ ไว้ว่า
"โมเลกุลเนื้อแป้งที่เป็นทรงกลม
ที่ต่างจากเนื้อแป้งใดๆในโลก จะให้สัมผัสที่นุ่มเว่อร์
และตรงนี้เอง “ที่สำคัญมาก” “เพราะโมเลกุลทรงกลมนี้
เมื่อทาซ้ำๆลงไปบนผิว จะไม่เกิดการบาดเซลล์ผิว
ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับเซลล์แม้แต่น้อย"
แต่กระบวนการของเทคโนโลยีนี้ ต้องใช้ Fibroin บริสุทธิ์ ที่ต้องสกัด โปรตีนอีกชนิดหนึ่ง คือ Sericin ที่จะพบร่วมกันใน Silk Cocoon จากธรรมชาติออก และต้องผ่านกระบวนการที่ทำให้โครงสร้างเล็กลง ทำให้จึงต้องมี
3) เทคโนโลยี สกัด Silk Cocoon ให้เหลือเฉพาะ Fibroin และ ผ่านกระบวนการ Silk Fibroin Emulsification โดยใช้กระบวนการที่ จดไว้ในสิทธิบัตรสหรัฐอเมริกา หมายเลข US7,901,668-B2
ที่สามารถรักษาคุณสมบัติทางชีวภาพของ Fibroin ได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่มี Sericin เจือปน ไม่เสี่ยงเคมีตกค้าง รวมถึง สามารถปรับโครงสร้างโมเลกุลของ Fibroin ให้เล็กลง ซึ่ง ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยี ที่ใช้สกัด Fibroin ระดับแนวหน้าที่สุดในตอนนี้
ที่ต้องสกัดออก เนื่องจากคุณสมบัติของ Sericin เป็น โปรตีนแบบ Hydrogel ซึ่งมีโครงสร้าง เป็น "สารเหนียว (Sticky Protein) ตามธรรมชาติ" จึง "ซึมเข้าสู่เซลล์ได้ยาก" และ "จะอยู่เคลือบที่ผิว มากกว่าที่จะซึมลงไปในเนื้อเยื่อ" และ ยากที่จะเข้าสู่เซลล์
Sericin จึงถูกใช้ เป็นวัตถุดิบ ในการทำโลชั่น หรือ สารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
ต่างกับ Fibroin ที่มีศักยภาพในการพัฒนาต่อ ให้สามารถซึมเข้าสู่เซลล์ได้
ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ระดับ Functional Skincare ที่ต้องการ การซึมลึกระดับเซลล์ จึงจำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีที่ละเอียดแม่นตรง ดังเช่นเทคโนโลยี ในข้อ 1) 2) และบางส่วนของ 3) ขึ้นมาทำงานกับ Fibroin บริสุทธิ์ที่สกัด Sericin ออกแล้ว
Fibroin บริสุทธิ์ ที่สกัด Sericin ออกแล้ว จึงเป็นวัตถุดิบสำคัญที่มีราคาสูง (ราคาประมาณ 50 เท่า ของ Sericin กรณีที่สกัดด้วยเทคโนโลยีระดับสูง) เพราะใช้ในการทำ Functional Skincare และ เทคโนโลยีด้าน Tissue Engineering