อะไรคือครีมต้องห้าม
ในความเป็นจริงแล้ว ครีมต้องห้ามนั้น ถึงแม้จะไม่ใช้คู่กับโคค่อน จะใช้เดี่ยวๆ ครีมเหล่านี้ก็ไม่ควรใช้อยู่ดี แต่บ่อยครั้งที่เราจะไม่ทันรู้ตัว และปล่อยให้มันอยู่คู่กับผิวเรามาอย่างยาวนาน นั่นก็คือ ครีมที่ทาแล้ว “กองอยู่บนผิว” แทบไม่ซึม ไม่หายไปไหน หลายคนเข้าใจว่ามันดี ฉาบไว้ให้ผิวไม่แห้ง แต่ในระยะยาว มีแต่จะทำให้ผิวที่ไม่ได้หายใจนั้น อ่อนแอลง
เปรียบเทียบได้กับ การเอาผ้ามาห่อผิวไว้ แต่ยังให้อากาศผ่านได้ ผิว จะเรียบเนียน ไม่คล้ำ สดใด ซึ่งเปรียบได้กับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ไม่ทึบไม่ฉาบผิว ซึมได้ ไม่กองอยู่บนผิว
ในขณะที่เปรียบเทียบอีกแบบ คือ การเอาเทปกาว มาแปะไว้บนผิว เทปกาวที่ไม่มีรูระบาย แปะไว้สนิท ให้ผิวขาดออกซิเจน วันเวลาผ่านไป พอแกะออก ผิวส่วนนั้น จะดูซีด อ่อนแอ แพ้ง่าย เหี่ยวง่าย ต้องใช้เวลาซักระยะในการฟื้นฟู ให้ผิวกลับมาสวยงามได้อย่างผิวที่ถูกเพียงผ้าห่อไว้ ซึ่งผิวที่ถูกเทปกาวแปะไว้ไม่โดนอากาศนั้น เปรียบได้ดังผิวที่ได้รับการทาครีม เนื้อ หนา หนัก และกองอยู่บนผิวเป็นระยะเวลายาวนาน
แต่สิ่งที่แย่กว่า คือ ครีมเหล่านั้นไม่ได้ถูกกำจัด ลอกออกง่ายๆเหมือนเทปกาว เพราะต่อให้เราล้างออก ความระคายเคือง แพ้ง่าย หรือเคมี ที่เหลือเป็นขยะกองอยู่บนผิวฉาบไว้อย่างยาวนาน ยังทำงานต่ออีกระยะ จนกว่าร่างกายจะขับออกเองโดยการผลัดเซลล์ทิ้งได้หมด แต่ หากผิวกำจัดออกเองไม่ได้ ผิวจึงแย่ระยะยาว และเสียหายบางส่วนอย่างถาวร
ครีมอะไรห้ามใช้กับโคค่อน
ทั้งครีมบำรุง หรือ ผลิตภัณฑ์ในตลาดบางตัว ที่เรียกตัวเองว่า โลชั่น ซีรั่ม หรือ เอซเซ้นส์ ทั้งที่จริง คุณสมบัติในการซึมผ่าน ทำได้ไม่ต่างจากครีมเนื้อหนัก ไม่ซึมเข้าผิว กองอยู่บนผิว ดีๆนี่เอง ครีมเหล่านี้ “ห้ามให้คู่กับโคค่อน” หรือ ถ้าให้แนะนำอย่างตรงไปตรงมา ใช้เดี่ยวๆก็ไม่ควร หากสงสัยในเหตุผล กลับไปอ่านข้างต้นดูอีกครั้งค่ะ
และในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง แบรนด์แพงๆ เค้าไม่รู้หรือ
ทำไมถึงมีออกมาขายมากมาย ครีมลักษณะเหล่านั้น
คำตอบคือ “รู้” และ “ไม่รู้”
พวกผู้ผลิตที่ไม่รู้นั้น ก็นับเป็นความโชคร้าย ของผู้บริโภคที่ต้องใช้ครีมเหล่านั้น และ ที่เราๆรู้กัน ความรับผิดชอบของผู้ผลิตต่อผู้บริโภค เป็นสิ่งที่หาได้ยาก ในโลกทุนปัจจุบัน จึงไม่แปลก ที่จะมีผลิตภัณฑ์ ที่ผลิต บนความ “ไม่รู้ของตน” และ ขายบน “ความไม่รู้” ของผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ข้ามชาติ มูลค่าหลายแสนล้านก็ยังถูกฟ้องร้องจนแพ้คดี ว่าแท้จริงแล้ว ปกปิดผู้บริโภคถึงอันตรายของผลิตภัณฑ์ตัวเอง ยังนำขาย ทั้งที่รู้ทั้งรู้ ว่าอันตราย ดังนั้นนี่คือโลกที่ผู้บริโภค “ต้องมีความรู้ และ ฉลาดเลือก”
กล่าวถึงพวกแบรนด์ที่ไม่รู้ไปแล้ว ก็จะกล่าวถึงอีกพวกหนึ่ง คือ แบรนด์ที่ “รู้” ว่าครีมตนเองเนื้อหนักเกินไป และ จะกองอยู่บนผิว ซึมไม่ได้ จึงต้องมีกรรมวิธีเจาะจงในการใช้งาน
เช่น การ วอร์มครีมจนละลาย และสามารถซึมเข้าผิวได้ อย่างเช่นที่ ลาแมร์สอนลูกค้าตน
แล้วนอกจากนั้นล่ะ มีอีกไหม... มีค่ะ มาส์กหน้าต่างๆ เป็นตัวอย่าง การนำสารบำรุง มากองไว้บนผิว และ รู้อยู่แล้ว ว่าจะดูดลงไปได้ไม่หมด หลังจากมาส์กเสร็จ เค้าจึงแนะนำให้เช็ดออก
ความจริง และ ปรากฏการณ์ ต่างๆ ล้วนสอดแทรก อยู่ในผลิตภัณฑ์ต่างๆที่เรา ใช้ เพียงแต่เราไม่รู้ที่มาที่ไป และ ที่สำคัญที่สุด เราจะไม่รู้เลยว่า ผู้ผลิต โกหกเราไหม จนวันที่ “ความเสียหายมาถึงเรา”
แล้วการใช้โคค่อน คู่กับครีมเนื้อหนัก ไม่ซึมเข้าผิว ไม่ดียังไง
นอกเหนือข้อเสียข้างต้นที่กล่าวไปแล้วนั้น จะอธิบายคร่าวๆอุปมาเป็นภาพได้ดังนี้
หากเปรียบโคค่อนเป็นได้ดั่งน้ำ น้ำบริสุทธิ์ นั้น ถูกเทลงไปบนผิวดิน ไหลซึมลงสู่รากไม้
ผิวดินนั้นเปรียบเหมือนชั้นครีมต่างๆที่เราฉาบไว้ใต้โคค่อน และ รากไม้นั้นเปรียบเหมือนเซลล์ใต้ชั้นผิว และ ผิวหน้าเรานั้น เปรียบเสมือนกับต้นไม้
น้ำนั้นจะพาอะไร ไปให้สู่รากไม้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า น้ำนั้นไหลผ่านอะไรไปบ้าง ถ้าผ่านแร่ธาตุที่ดี อาหารที่ดี รากไม้ก็จะดีตาม ต้นไม้ก็งาม แต่หากต้องผ่านสารเคมี ขยะ พิษต่างๆ รากไม้ก็จะได้รับไปด้วยเช่นกัน
แต่ครีมเนื้อหนัก ที่ไม่ยอมให้น้ำผ่านอากาศผ่านนั้น บ่อยครั้งเมื่อมาอยู่บนผิวหน้า จึง เปรียบเสมือน ชั้นดินเหนียวในดิน ที่ไม่ว่าเทน้ำลงไปเท่าไหร่ น้ำก็ไปไม่ถึงราก กลายเป็นกองอยู่อย่างนั้นจนโคนต้นเน่า
โคค่อน นั้นคือโปรตีน หากกองอยู่บนผิว ซึมลงไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นครีมที่อุดกั้นดั่งชั้นดินเหนียว หรือ ไม่ว่าเป็นเพราะผิวโดนทำลายมาก่อนจนทาครีมไม่เข้า และ ทำหน้าที่ดังชั้นดินเหนียว
โปรตีนนั้น จึงกลายเป็นอาหารชั้นเลิศ ของแบคทีเรีย หรือ ยีส หรือ ไรบนผิวหน้า คนที่หน้าเคยผ่านเคมี ผิวอ่อนแอ หรือ โดนทำลายมาก่อน จะมีสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้บนผิวหน้า พอทาโคค่อนแล้วโคค่อนซึมลงไปไม่ได้ กองอยู่บนผิว จึงกลายเป็นอาหารของ แบคทีเรีย ยีส หรือ ไร บางคน จะคันยิบๆ บนผิว
หรือ ในบางรูปแบบ เปรียบดังน้ำ ไปจับตัวกับดินไม่ร่วน ก็กลายเป็นดินเหนียว ดินโคลนขึ้นมาอีก ดังเช่น โคค่อน ที่เป็นสารบำรุงที่มีเนื้อเป็นแป้ง แต่พอโดนครีมที่กองอยู่บนผิว ยิ่งถ้ามีลักษณะเหนียวมัน ข้น จับตัว จะกลายเป็นอุดตัน และกลายเป็นผด หรือ สิว
| หน้าที่เข้าชม | 5,190 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 3,689 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 21 มิ.ย. 2559 |
| ร้านค้าอัพเดท | 11 ก.ย. 2568 |