cocon ใช้ยังไง สารอาหารผิว ยิ่งเติมยิ่งดี จริงรึเปล่า ???

ในความเป็นจริง การให้อาหารแก่เซลล์ผิวหน้าก็เหมือนกับการกินอาหารเข้าร่างกาย
เรากินเมื่อร่างกายเราหิว และ เมื่อเรา อิ่ม "เราต้องหยุด" และ ปล่อยให้ร่างกายได้ย่อยได้นำไปใช้ และเราก็จะมีแรงทำงานและใช้ชีวิตต่อ
เช่นเดียวกับการเติม cocon เข้าเซลล์ ตื่นเช้ามาเซลล์ผิวหน้ายังไม่ร้อน เพราะเพิ่งผ่านการพักผ่อนมา (แต่ถ้าพักผ่อนไม่พอ เซลล์หน้าจะร้อนผ่าวๆเป็นระยะ อย่างสังเกตได้)
เราก็ล้างหน้าตามปกติ ลงบำรุง กันแดดและเครื่องสำอางต่างๆ
พอเสร็จ ให้ เราเติมผิวด้วย cocon ให้ทั่ว
พอลงcocon เสร็จ หากใคร ต้องใช้แป้งรองพื้นเพื่อปกปิด ก็ตามด้วยแป้งรองพื้นหลังจาก cocon ได้ทันที ไม่ต้องพักหน้าหลายนาทีเหมือนเวลาทาครีม เพราะโมเลกุลของ cocon เล็กจนซึมผ่านสิ่งต่างๆที่ทาบนหน้าได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้หลุดง่ายๆ
และข้างล่าง ตรงนี้สำคัญ
พอเราให้อาหารแก่ผิว เราก็แค่รอ
อย่าไปพยายามยัดอาหารเข้าไปเพิ่ม "โดยการเติมแล้วเติมอีก"
ไม่ใช่เห็นว่าเป็นอาหารผิวแล้วเติมแล้วเติมอีก เหมือนกับที่กล่าวไปข้างต้น
เมื่อเรากินอิ่ม เราก็ปล่อยให้ร่างกายย่อย ดังนั้นพอทา cocon เสร็จ ก็แค่รอ ให้มันซึมเข้าเซลล์ และนำไปใช้ ดังนั้นเมื่อทาแล้ว อย่าไปเติมซ้ำ แต่
แค่รอ ให้เซลล์ดูดซึม และ ดูปรากฏการที่เกิดขึ้นกับผิวหน้า
เมื่อ cocon ซึมเข้าเซลล์หมด ผิวหน้า จะไม่มีสัมผัส ปุยๆเหมือนแป้ง เหลืออยู่บนผิว
(ตอนทาใหม่ๆ ยังมีความรู้สึกเหมือนแป้งๆ) แต่ถ้าเซลล์ดูดเข้าไปหมด
พอจับที่ผิว จะไม่มีเนื้อแป้งหลงเหลืออยู่บนหน้า แต่จะเป็นผิว ที่ไร้ความมัน แต่เงาขึ้น เรียบๆเนียนๆ รูขุมขนค่อยๆเล็กลง ฟู เต็ม สีสว่างขึ้น ไม่มัน ใสขึ้น กระชับขึ้น และจะดูอ่อนวัยลงอย่างสังเกตได้
เมื่อเซลยังอิ่ม ดูผ่อง เย็น ไม่ร้อน หน้าสว่าง เบา ใส
นั่นแปลว่า อาหารในเซลล์ยังไม่หมด "ไม่จำเป็นต้องเติมเข้าไปซ้ำ ให้เปลือง
และ ให้เซลล์เหนื่อยในการย่อยของที่เกินจำเป็น และจะกลายเป็นสิ่งตกค้างและขยะแก่เซลล์ในที่สุด"
แต่ทันทีที่เซลเริ่มล้า เหนื่อย ขาดอาหาร จะสังเกตได้ว่าจะเริ่มคุมความร้อนไม่ได้ จนเริ่มรู้สึกร้อนที่ผิว (เหมือนเครื่องยนต์ที่ทำงานยิ่งนานก็จะยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ และเครื่องยนต์ที่เครื่องร้อนเกินไป ก็จะพังในที่สุด)
นั่นแปลว่า เซลล์กำลังเริ่มล้า ขาดอาหารอีกครั้ง ผิวหน้าจะดูไม่เต่ง ไม่สว่างใส เท่าเดิม หน้าเริ่มมัน รูขุมขนเริ่มขยาย และ เริ่มดูหมองคล้ำลง
ก็ให้ซับหน้าเอาไขมันส่วนเกินออก ด้วยกระดาษทิชชู่ธรรมดา "ไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษซับมัน" ให้หน้าแห้งเกินไป พอซับออก ก็เติม cocon ให้แก่เซลล์อีกครั้ง ในส่วน ที่เซลล์เริ่มดูเหนื่อยล้า นั่นก็คือ ส่วนที่จะร้อนมากกว่าผิวส่วนอื่น หมองกว่าส่วนอื่น มันกว่าส่วนอื่น เช่น ส่วนทีโซน (ลองสัมผัสอุณหภูมิดูได้ค่ะ) หรือบางคน แค่ที่จมูก ก็เติมแค่ที่จมูก แล้วก็รอมันซึมเข้าเซล ผิวในส่วนนั้นก็จะกลับมาฟูขึ้น และเรียบขึ้นหลังจากเซลย่อยเสร็จอีกครั้ง โดย ผิวส่วนที่ผ่านมาทั้งวันแล้วยังไม่มีปัญหา "ไม่จำเป็นต้องเติม" เพื่อไม่ให้กลายเป็นขยะเหลือจากย่อย ตกค้าง เป็นภาระแก่เซลล์
บางคนอาจจะเติม cocon แค่วันละครั้ง เพราะขี้เกียจพกไปด้วย cocon ก็ยังสามารถช่วยในการคุมอุณหภูมิเซลล์ให้ไม่ร้อนและแก่ก่อนวัย ได้ยาวนานทั้งวัน (พอเซลไม่ร้อน ก็ไม่เหนื่อยง่าย และ ไม่หิวง่าย) บางคน ครั้งเดียวจึงเพียงพอ
ในขณะที่บางคนอาจจะต้องเติม 2-3-4 ครั้ง ตามสภาวะแวดล้อมที่เราต้องไปประสบ และสภาพเซลล์ของบุคคลนั้นๆโดยหลักๆ สังเกตได้จากอุณหภูมิบนผิวหน้า
....โดยผลิตภัณฑ์ทั่วไป หากเติมลงบนผิวหน้า กลับยิ่งทำให้หน้าหนัก ทึบ กร้าน และไม่ช่วยคายความร้อนให้แก่เซลล์ กลายเป็นยิ่งพอก ให้เซลล์ทำงานหนักขึ้นทั้งๆที่เซลล์ขาดอาหาร พอตกเย็น ผิวจะโทรมมาก ในขณะที่ cocon แม้ในคนที่ทาแค่ตอนเช้าครั้งเดียว ผิวหน้าจะใส และอ่อนวัยยาวนาน จากการที่เซลไม่ต้องร้อนเกิน และ หน้าใส อ่อนวัยยาวนานได้ 6-10 ชั่วโมง หลังล้างหน้าออกก็ยังสัมผัสได้ถึงผิวที่นุ่มเรียบขึ้น จากเซลล์ที่ไม่ต้องทนร้อน หิว และทรุดโทรมมาทั้งวัน
ดังนั้น ใครยังไม่ได้เห็นสภาวะตอนเซลล์ดูดอาหารเสร็จแล้วหน้าใส ลองดูนะคะ อย่าเพิ่งไปเติมซ้ำ รอให้เนื้อ cocon ที่สัมผัสคล้ายแป้ง โดนเซลดูด ย่อยไปให้หมดก่อน แล้วรอดูความเด้งใส กันยาวๆ มันฟินค่ะ ตอนได้ลูบผิวหน้าตอนที่อาหารเข้าเซลล์หมดแล้ว
ลองหาที่เหมาะสมของแต่ละคนนะคะ อย่าเห็นชื่อว่าอาหารผิว แล้วกระหนำตบเติมกันไม่ยั้ง 555 นอกจากเซลอาหารล้นจนกลายเป็นภาระในการย่อย นอกจากนั้น "มันเปลืองงงงงงง" โดยไม่เกิดประโยชน์
| หน้าที่เข้าชม | 5,190 ครั้ง |
| ผู้ชมทั้งหมด | 3,689 ครั้ง |
| เปิดร้าน | 21 มิ.ย. 2559 |
| ร้านค้าอัพเดท | 11 ก.ย. 2568 |